การจัดทำรายงาน สถิติสำคัญกระทรวงมหาดไทย เป็นการรวบรวมข้อมูลสถิติจากฐานข้อมูลที่พัฒนาขึ้นตาม โครงการศูนย์ข้อมูลกลางกระทรวงมหาดไทย และจังหวัด โดยศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยจึงได้ดําเนินการพัฒนาระบบฐานข้อมูลตาม โครงการ พัฒนาศูนย์ข้อมูลกลางกระทรวงมหาดไทย และจังหวัด ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 โดยแบ่งการพัฒนา เป็น 3 ระยะ ซึ่งปัจจุบันพัฒนาครบทั้ง 75 จังหวัดเรียบร้อยแล้ว
โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดตั้งศูนย์ข้อมูลกลางกระทรวงมหาดไทยและจังหวัด โดยรวบรวมข้อมูลผ่านทางระบบเครือข่าย บูรณาการข้อมูลจากฐานข้อมูล ของกระทรวง และส่วนราชการในระดับจังหวัด รวมทั้งจัดรูปแบบและแปลงข้อมูล ให้อยู่ในมาตรฐานเดียวกัน จัดทำระบบมาตรฐานของข้อมูลและการจัดเก็บข้อมูล ของกระทรวงมหาดไทย ให้มีรูปแบบ มาตรฐาน เพื่อไม่ให้สับสนและซ้ำซ้อน จัดทำระบบข้อมูลนำเสนอรายงานแก่ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ผู้บริหารของกระทรวงมหาดไทย และส่วนราชการต่างๆ รวมทั้งการให้บริการข้อมูล แก่ประชาชน ผ่านทางเว็บไซต์ www.moi.go.th
ระบบฐานข้อมูลที่พัฒนาขึ้น ประกอบด้วยข้อมูลสำคัญ 2 ส่วน คือ
1. ข้อมูลที่สำคัญของจังหวัด 45 กลุ่มเรื่อง ได้แก่ ข้อมูลสนับสนุนการบริหารจัดการ ข้อมูลเพื่อการวางแผนและการปฏิบัติงาน ข้อมูลผลการปฏิบัติงาน
2. รายการตัวชี้วัดการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ 32 ตัวชี้วัด โดยมีรูปแบบของการจัดเก็บและนำเข้าข้อมูล เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าใจได้ง่ายในรูปแบบเดียวกัน ทำให้ข้อมูลเหล่านี้จะได้รับการปรับปรุงให้มีความถูกต้องทันสมัยอยู่เสมอ
การพัฒนาระบบฐานข้อมูลดังกล่าว มีความจำเป็นต้องประสานในรายละเอียดของข้อมูลเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากทุกส่วนราชการที่เป็นเจ้าของข้อมูล ในการให้ความร่วมมือจัดเก็บ และนำเข้าข้อมูลตามรูปแบบที่กำหนด การรายงานแสดงผลจึงจะสมบูรณ์ครบถ้วน รวมทั้งมีการนำข้อมูลและรายงานไปใช้ประโยชน์ร่วมกันต่อไป กระทรวงมหาดไทยจัดให้มีการสัมมนาเปิดตัวการใช้ระบบศูนย์ข้อมูลกลางกระทรวงมหาดไทยและจังหวัด ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2551 ณ โรงแรมรามาการ์เด็นท์ กรุงเทพฯ เพื่อให้หน่วยงานทั้งส่วนกลางและจังหวัดได้รับทราบข้อมูลมาตรฐานกลางที่กระทรวงมหาดไทยต้องการใช้ และเพื่อประโยชน์ในการใช้ประโยชน์ข้อมูลร่วมกัน อีกทั้งกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการเร่งรัดให้ทุกจังหวัดจัดเก็บข้อมูลเข้าสู่ฐานข้อมูล รวมทั้งจะมีการมอบประกาศเกียรติคุณให้แก่จังหวัดที่มีการนำเข้าข้อมูลสูงสุดด้วย เพื่อให้ฐานข้อมูลมีข้อมูลครบถ้วนมากขึ้น กระทรวงมหาดไทยจะได้รวบรวมข้อมูลนำมาประมวลผลเพื่อจัดทำรายงานสถิติสำคัญกระทรวงมหาดไทย ประจำปี พ.ศ.2551 ที่จะประมวลผลข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2551
การนำเข้าข้อมูล ดำเนินการโดยหน่วยงานเจ้าของข้อมูลที่อยู่ในจังหวัดแต่ละจังหวัด บันทึกผ่านหน้าจอบันทึกของระบบศูนย์ข้อมูลกลางจังหวัดนั้น กรณีที่สามารถใช้เครือข่ายกระทรวงมหาดไทยได้ (อยู่บนศาลากลางจังหวัดเนื่องจากระบบที่จังหวัดยังเป็นระบบภายใน (Intranet)) หรือบันทึกผ่าน หน้าจอบันทึก ของระบบศูนย์ข้อมูลกลางกระทรวงมหาดไทย (หน้าเว็บไซต์กระทรวงมหาดไทย www.moi.go.th) ซึ่งเป็นระบบ Internet ข้อมูลที่อยู่ในฐานข้อมูล จังหวัดจะ มีการส่งผ่านข้อมูล (Data Exchange) กับฐานข้อมูลระบบศูนย์ข้อมูลกลางกระทรวงมหาดไทยที่ส่วนกลางซึ่งเป็นที่รวบรวมข้อมูลทั้ง ๗๕ จังหวัด โดยข้อมูล จะมีระดับความน่าเชื่อถือ ๓ ระดับ แทนด้วยสัญลักษณ์รูปดาว
ดาวสีแดง 1 ดวง หมายถึง ข้อมูลรายการนั้นรอการตรวจสอบความถูกต้อง | |
ดาวสีเหลือง 2 ดวง หมายถึง ข้อมูลที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว | |
ดาวสีเขียว 3 ดวง หมายถึง ข้อมูลผ่านการรับรองความถูกต้องแล้ว |
โดยสัญลักษณ์รูปดาวจะปรากฏอยู่ท้ายตารางข้อมูลที่เผยแพร่ ทำให้ผู้ที่จะนำข้อมูลไปใช้มีความเชื่อถือในข้อมูลนั้น
สำหรับตารางสถิติที่ปรากฏในเอกสาร รายงาน สถิติสำคัญกระทรวงมหาดไทยรายไตรมาส และรายปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ที่กำลังจะผลิตต่อไป เป็นการนำข้อมูลในฐานข้อมูลระบบศูนย์ข้อมูลกลางกระทรวงมหาดไทยที่ส่วนกลาง บางรายการ (เนื่องจากข้อมูลยังไม่สมบูรณ์ครบถ้วนทั้งหมด เพราะจังหวัดต่างๆ กำลังนำเข้าข้อมูล) ที่จัดเก็บด้วยฐานข้อมูล ORACLE มาประมวลผลโดยใช้ โปรแกรม Microsoft Excel เพื่อให้เหมาะสมกับการจัดพิมพ์เป็นเอกสารรูปเล่ม เนื่องจากระบบที่เผยแพร่รายงานที่พัฒนาตามโครงการนั้น เป็นการนำเสนอทางเว็บไซต์ (หน้าจอคอมพิวเตอร์) เขียนด้วยภาษา Java ที่เชื่อมต่อกับฐานข้อมูล ORACLE เรียกชื่อเฉพาะว่า jsp ย่อมาจาก Java Server Pages ในเอกสารที่เผยแพร่มีการนำเสนอข้อมูลในรูปแบบตารางและกราฟ ผลิตเป็นเอกสาร ที่เป็นรูปเล่ม แจกจ่ายให้จังหวัดต่างๆ และหน่วยงานในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย รวมทั้งมีการเผยแพร่ให้แก่ประชาชนนำไปใช้ในเว็บไซต ์ของกระทรวงมหาดไทย (www.moi.go.th) เว็บในระบบอินทราเน็ตของสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย (http://moinet) และเว็บไซต์การจัดการความรู้ สป.มท. (http://km.moi.go.th) ด้วย
ข้อมูลจากรายงานสถิติสำคัญกระทรวงมหาดไทย มีความสำคัญ คือสามารถใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการวางแผนพัฒนาจังหวัด เพื่อให้นักลงทุนใช้เป็น ข้อมูลพื้นฐานในการลงทุนในจังหวัดได้ และประชาชนได้รู้ข้อมูลพื้นฐานของแต่ละจังหวัดได้ ข้อมูลที่เผยแพร่ในรายงานสถิติสำคัญกระทรวงมหาดไทย ประกอบ ไปด้วยข้อมูลทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม การพาณิชย์ การเกษตรกรรมจังหวัด การอุตสาหกรรม แหล่งท่องเที่ยวในจังหวัด รายได้เฉลี่ยต่อคนต่อปีของ แต่ละ จังหวัด เป็นต้น การจัดทำรายงานที่เผยแพร่ในระบบผ่านเว็บไซต์ มีการจำแนกกลุ่มผู้ใช้งานหลายประเภทได้แก่
1) กลุ่มผู้บันทึกข้อมูล จำแนกเป็น ๓ ระดับตามความรับผิดชอบข้อมูล ที่มี 3 ดาว
2) กลุ่มประชาชนทั่วไป ที่สามารถดูรายงานข้อมูลที่ไม่มีชั้นความลับ
3) กลุ่มผู้บริหาร ในจังหวัดและในส่วนกลาง ที่สามารถดูข้อมูลที่มีชั้นความลับ และดูรายงานที่ออกแบบไว้สำหรับผู้บริหาร (EIS : Executive Information System และ GIS : Geometrics Information System)
4) กลุ่มผู้ดูแลระบบ (Admin) เป็นผู้ดูแลระบบที่จังหวัด และผู้ดูแลระบบในส่วนกลาง
กลุ่มประชาชนทั่วไปสามารถเรียกดูรายงานได้โดยไม่ต้อง ลงชื่อ (Login) เข้าใช้ระบบ แต่กลุ่มผู้ใช้ระบบกลุ่มอื่นจะต้องลงชื่อ ใส่รหัสผู้ใช้ และรหัสผ่าน ให้ถูกต้องเท่านั้นจึงจะสามารถเข้าใช้ระบบได้ เนื่องจากจะมีการให้สิทธิ์ในการเห็นหน้าจอแตกต่างกันไป เช่นการบันทึกข้อมูลถ้าเป็นหน่วยงาน ที่มีสิทธิในการบันทึก แก้ไขข้อมูลในรายการใด (กำหนดสิทธิ์โดยผู้ดูแลระบบ) ก็จะเห็นเฉพาะรายการที่อยู่ในความรับผิดชอบเท่านั้น
ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย
การจัดทำรายงาน สถิติสำคัญกระทรวงมหาดไทย เป็นการรวบรวมข้อมูลสถิติจาก ฐานข้อมูลที่พัฒนาขึ้นตามโครงการ ศูนย์ข้อมูลกลางกระทรวงมหาดไทยและจังหวัด โดยศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย จึงได้พัฒนาทักษะให้แก่นักวิชาการคอมพิวเตอร์ และ ผู้รับผิดชอบข้อมูลในจังหวัด โดยจัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการในหลายหลักสูตร ดังนี้
1) ฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร “การจัดการระบบสารสนเทศของจังหวัด” 3 รุ่น เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถ ทำหน้าที่ผู้ดูแลระบบ ของระบบศูนย์ข้อมูลกลางจังหวัดได้
2) ฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร “การจัดการและดูแลระบบ Server” 5 รุ่น เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรม สามารถจัดการ และดูแลเครื่องแม่ข่าย (Server) ที่ติดตั้งที่จังหวัดตามโครงการศูนย์ข้อมูลกลางกระทรวงมหาดไทยและจังหวัดได้
3) ฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร “การถ่ายโอนข้อมูลจากฐานข้อมูลจังหวัด เข้าฐานข้อมูลศูนย์ข้อมูล กลางจังหวัด และ การจัดทำรายงานด้วยระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์” จำนวน 2 รุ่น เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรม สามารถรู้วิธีถ่ายโอนข้อมูล ที่จังหวัด พัฒนาขึ้นเองที่มีโครงสร้างข้อมูล รูปแบบการจัดเก็บที่ตรงกับข้อมูลที่อยู่ในฐานข้อมูลของ ศูนย์ข้อมูลกลาง กระทรวง มหาดไทยและจังหวัด เพื่อให้ผู้บันทึกข้อมูลไม่ต้องบันทึกข้อมูลซ้ำซ้อน และเรียนรู้วิธีการพัฒนาโปรแกรมด้วยภาษา JSP รวมทั้งการจัดทำรายงานด้วยระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ เพื่อเป็นแนวทางการพัฒนาระบบโปรแกรมต่อยอดจากที่มีอยู่ต่อไป
4) ฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร “การถ่ายโอนข้อมูลจากฐานข้อมูลจังหวัด เข้าฐานข้อมูลศูนย์ข้อมูล กลางจังหวัด” จำนวน 1 รุ่น แก่เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน นายช่างไฟฟ้าสื่อสาร หรือเจ้าหน้าที่อื่นๆ สำหรับจังหวัด ที่ไม่มีนักวิชาการ คอมพิวเตอร์ เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถรู้วิธีถ่ายโอนข้อมูลที่จังหวัดพัฒนาขึ้นเองที่มีโครงสร้างข้อมูล รูปแบบการจัดเก็บ ที่ตรงกับข้อมูลที่อยู่ในฐานข้อมูลของศูนย์ข้อมูลกลางกระทรวงมหาดไทยและจังหวัด เพื่อให้ผู้บันทึกข้อมูล ไม่ต้องบันทึกข้อมูล ซ้ำซ้อน รวมทั้งอบรมเรื่องระบบฐานข้อมูลเบื้องต้นด้วย
ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย
ถาม
โครงการศูนย์ข้อมูลกลางกระทรวงมหาดไทยและจังหวัด โดยศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยทำไมถึงพัฒนาหลังจากที่จังหวัดพัฒนาระบบฐานข้อมูล 45 กลุ่มเรื่อง และ 32 ตัวชี้วัดแล้ว
ตอบ
สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย โดยศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้จัดทำโครงการ ศูนย์ข้อมูลกลางกระทรวงมหาดไทยและจังหวัด โดยเสนอขออนุมัติดำเนินการตั้งแต่ปี 2546 โดยดำเนินการทั้ง 75 จังหวัด ทั่วประเทศ แต่สำนักงบประมาณอนุมัติให้ดำเนินการในจังหวัดนำร่องและส่วนกลางก่อน ในปีงบประมาณ 2547 ในวงเงิน 69 ล้านบาท เนื่องจากยังไม่มีหน่วยงานใดที่จะสามารถดำเนินการพัฒนาระบบฐานข้อมูลระดับจังหวัด โดยบูรณาการข้อมูล จากทุกหน่วยได้ ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารจึงได้พัฒนาระบบฐานข้อมูลที่ส่วนกลางและจังหวัดที่เป็นศูนย์สื่อสารเขต 6 จังหวัด ซึ่งขณะนั้น ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารกำลังดำเนินการพัฒนาเครือข่ายสื่อสารข้อมูล (Network) ตามโครงการทางด่วนข้อมูลระยะที่ 3 ใน สำนักงานปฏิรูประบบราชการ (กพร) ได้กำหนดตัวชี้วัดตามคำรับรอง การปฏิบัติ ราชการ ประจำปี พ.ศ.2547 ของทุกจังหวัด เกี่ยวกับการพัฒนาระบบฐานข้อมูลจังหวัดให้มีการพัฒนาฐานข้อมูล 45 กลุ่มเรื่อง และ 32 ตัวชี้วัด ดังนั้นแต่ละจังหวัดที่มีงบผู้ว่า ceo จึงเร่งพัฒนาระบบฐานข้อมูลเองเพื่อให้ผ่านตามคำรับรอง การปฏิบัติ ราชการ ประจำปี โดยดำเนินการเองบ้าง จ้างบริษัทเอกชน หรือบางจังหวัดให้สถาบันการศึกษาพัฒนาให้ โดยยึดรายการข้อมูลตาม คู่มือการบริหารราชการจังหวัดแบบบูรณาการ เล่มที่ 2 ซึ่งมีแต่ชื่อรายการข้อมูลที่ต้องจัดทำแต่ไม่มีรายละเอียด ของโครงสร้าง ฐานข้อมูล แต่ละจังหวัดจึงจัดทำฐานข้อมูลที่แตกต่างกันตามที่แต่ละจังหวัดจะมีข้อมูล
ถาม
ทำไมระบบฐานข้อมูลศูนย์ข้อมูลกลางกระทรวงมหาดไทยไม่นำโครงสร้างฐานข้อมูลของจังหวดใดจังหวัดหนึ่ง เป็นมาตรฐาน
ตอบ
การออกแบบโครงสร้างฐานข้อมูล (Data Structure) ของศูนย์ข้อมูลกลางกระทรวงมหาดไทยมีการพัฒนามา ตั้งแต่การดำเนินกา ตามโครงการศูนย์ข้อมูลกลางระยะที่ 1 (2547) เดิมข้อมูลส่วนใหญ่นำมาจากฐานข้อมูล กชช.2ค. และ จปฐ. ของกรมการพัฒนาชุมชน แต่ ในวัตถุประสงค์ ของโครงการต้องการให้หน่วยงานเจ้าของข้อมูลเป็น ผู้รับผิดชอบในการบันทึก นำเข้า ข้อมูล เพี่อให้ข้อมูลมีความถูกต้องทันสมัย น่าเชื่อถือ และยั่งยืน โดยบริษัทผู้รับจ้างพัฒนาระบบจะเป็น ผู้นำเข้าข้อมูลเริ่มต้นที่ได้รับ จากหน่วยงานเจ้าของข้อมูล พบว่า ในระยะที่ 1 (6 จังหวัดนำร่อง) ข้อมูลที่จังหวัดจัดส่งให้มีปริมาณน้อย เนื่องจากขาดมาตรฐานในการจัดเก็บข้อมูลในแต่ละจังหวัดทำให้รายละเอียดของข้อมูล เช่นการจำแนกประเภท รอบการจัดเก็บ ระดับความลึกของข้อมูลไม่เท่ากัน นิยามของข้อมูลต่างๆ ไม่ชัดเจน
ดังนั้นในการพัฒนาระบบในระยะที่ 2 (เพิ่มอีก 30 จังหวัด)จึงจัดให้มีการระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงสร้างฐานข้อมูลที่จังหวัดมีและคิดว่า ควรจัดเก็บ ซึ่งในคราวนั้นได้เชิญกระทรวงต่างๆ ในส่วนกลางที่น่าจะให้ความคิดเห็นและสนับสนุนข้อมูลเพื่อจัดทำระบบเข้าร่วมประชุมด้วย จึงได้มีการปรับโครงสร้างฐานข้อมูลในระยะที่ 2 (การดำเนินการตามโครงกามีการแต่งตั้งคณะทำงาน เพื่อควบคุมให้ข้อเสนอแนะ การดำเนินการ ตามโครงการด้วย) ซึ่งศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้จัดทำกรอบโครงสร้างฐานข้อมูล 45 กลุ่มเรื่อง 32 ตัวชี้วัด บันทึกใส่แผ่นซีดี แจกจ่าย ให้ทุกจังหวัด เพื่อกำหนดเป็นมาตรฐานให้จังหวัดนำไปใช้ แต่เมื่อสิ้นสุดโครงการระยะที่ 2 ข้อมูลที่ได้รับจากจังหวัดก็ยังคงมีปริมาณน้อย
โครงการระยะที่ 3 สำหรับ 39 จังหวัดที่เหลือ ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จึงปรับกลยุทธในการดำเนินการ โดยมีการออกไปประชาสัมพันธ์ โครงการตั้งแต่ เริ่มโครงการที่จังหวัดทั้ง 39 จังหวัด โดยให้แต่ละจังหวัดจดประชุมเชิญหน่วยงานเจ้าของข้อมูลในจังหวัดมาร่วมรับฟังคำชี้แจง พร้อมเอกสาร รายการข้อมูลพร้อมตัวอย่างข้อมูลแจกให้แต่ละหน่วยงานดูว่าสามารถให้การสนับสนุนข้อมูลตามที่ได้ออกแบบไว้หรือไม่ และสามารถให้ข้อคิดเห็นเสนอแนะข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์หากมีการจัดเก็บเพิ่มเติม หลังจากนั้นให้จังหวัด รวบรวมข้อมูลที่ได้รับ จากหน่วยงานในจังหวัด จัดส่งให้บริษัทนำเข้าข้อมูลเป็นข้อมูลเริ่มต้นของระบบ และตัวโปรแกรมบันทึกรวมทั้งฐานข้อมูลมีการออกแบบ ให้สามารถรองรับกับข้อมูลที่แต่ละจังหวัด ที่มีความลึกของข้อมูลแตกต่างกัน เช่นบางจังหวัดเก็บข้อมูลระดับอำเภอ บางจังหวัดระดับตำบล บางจังหวัดเก็บระดับหมู่บ้านก็สามารถรองรับได้ รวมทั้งแต่ละปีที่เก็บไม่เหมือนกันก็ยังสามารถรองรับได้
ในการดำเนินการตามโครงการ ระยะที่ 3 นี้ ได้มีการเชิญผู้แทนจากจังหวัดมาร่วมเป็นคณะทำงานในการวิเคราะห์และออกแบบฐานข้อมูลด้วย ดังนั้นโครงสร้างของฐานข้อมูลที่ส่วนกลางใช้ตามโครงการน่าจะเป็น โครงสร้างที่เหมาะสมในระดับหนึ่ง แต่หลังจากที่มีการสั่งการให้ทุกจังหวัดใช้ระบบแล้ว จะทำให้เห็นภาพรวมของข้อมูลทั้ง ๗๕ จังหวัดว่าจะสามารถจัดเก็บเพิ่มเติมได้มากน้อยเพียงใด และหากมีหน่วยงานใดเสนอแนะให้ปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม โครงสร้างฐานข้อมูล ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จะได้จัดประชุมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาข้อเสนอเพื่อปรับปรุงต่อไป
ถาม
ทำไมบันทึกข้อมูลเพิ่มไม่ได้ในบางปีที่มีข้อมูลอยู่ในฐานข้อมูลแล้ว
ตอบ
ระบบการบันทึกข้อมูลตามโครงการศูนย์ข้อมูลกลางระยะที่ 3 (และได้ทำการปรับแก้ระบบให้ทุกจังหวัดที่อยู่ในระยะที่ 1 และ ระยะที่ 2 แล้ว) จะรองรับการบันทึกข้อมูลได้ทุกระดับ ตั้งแต่ระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน ได้ โดยระบบจะเช็คข้อมูลที่บันทึกเข้าไป ดังนี้
1. มีข้อมูลปีนั้นในฐานข้อมูลก่อนหรือไม่
2. ถ้าเดิมมีข้อมูลอยู่แล้วจะรู้ว่าบันทึกระดับใดไว้ เช่น เดิมปี 2549 บันทึกข้อมูลระดับ อำเภอ ระบบจะยอมให้ บันทึกข้อมูลของอำเภอ อื่น ที่ยังไม่มีได้ (ณ ปี 2549 คีย์หลักของข้อมูลจะเป็น ปีข้อมูล รหัสจังหวัด รหัสอำเภอ)
แต่จะไม่อนุญาตให้บันทึกข้อมูล ระดับต่ำกว่าอำเภอได้ (เนื่องจาก รหัส ตำบล รหัสหมู่บ้านไม่ได้เป็นคีย์) ถ้าท่านต้องการบันทึกข้อมูลลึกกว่าระดับอำเภอ เช่น ระดับตำบล ต้องลบข้อมูลปี 2549 ที่เป็นระดับอำเภอทั้งหมดออกก่อน
ถาม
ทำไมแก้ไขส่วนที่เป็นชื่อจังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน หรือ ข้อมูลบางตัว (เป็นสีเทา) ไม่มีรายการให้เลือก เวลาต้องการแก้ไขแต่ตอนบันทึกเข้าใหม่จะมีให้เลือก
ตอบ
แสดงว่าส่วนของข้อมูลเหล่านั้นเป็นคีย์หลักของรายการข้อมูลนั้น ระบบฐานข้อมูลที่เป็นมาตรฐานส่วนใหญ่จะไม่อนุญาตให้แก้ไข ส่วนที่เป็นคีย์หลักที่ใช้ดึงข้อมูล
วิธีแก้ไข คือท่านต้องลบข้อมูลรายการนั้นทิ้งแล้วบันทึกข้อมูลที่ถูกต้องเข้าไปใหม่เท่านั้น
ถาม
หน่วยงานที่อยู่นอกศาลากลางจังหวัดหรือไม่สามารถใช้เครือข่ายสื่อสารข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยได้จะบันทึกข้อมูลเข้าระบบ ศูนย์ข้อมูลกลางจังหวัด ที่เป็นระบบอินทราเน็ตได้อย่างไร
ตอบ
ผู้ดูแลระบบของแต่ละจังหวัด (admin) สามารถโยนรหัสผู้ใช้ระบบในจังหวัดมาที่เครื่องแม่ข่ายศูนย์ข้อมูลกลางกระทรวงมหาดไทยที่ส่วนกลางได้ แล้วให้หน่วยงานนั้นบันทึกข้อมูลเข้าทางระบบอินเตอร์เน็ท ทางเว็บไซต์ของกระทรวงมหาดไทย (www.moi.go.th) หลังจากนั้นผู้ดูแลระบบของแต่ละจังหวัด (admin) โยนข้อมูลในตารางนั้นกลับไปที่เครื่องแม่ข่ายของจังหวัด ซึ่งได้มีการพัฒนาเป็นโปรแกรมเพื่ออำนวยความสะดวก ให้ผู้ดูแลระบบของ แต่ละจังหวัดสามารถใช้งานได้
ถาม
ทำไมเครื่องคอมพิวเตอร์บางเครื่องไม่สามารถเลือกบันทึกข้อมูลระดับอำเภอ ตำบล หมู่บ้านได้ แต่บางเครื่องเลือกได้
ตอบ
เนื่องจากโปรแกรมที่ติดตั้งในคอมพิวเตอร์ที่ไม่สามารถเลือกบันทึกข้อมูลระดับอำเภอ ฯลฯ เป็น โปรแกรม ie (Internet Explorer) รุ่นที่สูงกว่า รุ่น 6 (ส่วนใหญ่ ตอนนี้ใช้ รุ่น 7 และไมโครซอฟท์กำลังออก รุ่น 8 แล้ว) เนื่องจากตัวโปรแกรมที่ได้พัฒนาขึ้นตามโครงการพัฒนาตาม รุ่น 8 (ขณะที่เซ็นต์สัญญาฯ จ้างพัฒนาระบบเป็นรุ่นล่าสุด)
วิธีแก้ไข ให้ติดตั้งโปรแกรมที่สามารถเลือกใช้ ie6 ได้โดยสามารถ download โปรแกรมได้ที่หน้าเว็บกระทรวงมหาดไทย (www.moi.go.th) เมนู “ข้อมูลสารสนเทศ” ชื่อ multiple-ie-setup